วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

ใครๆก็ไม่รัก! โห่ซัวเรซทั้งงานพีเอฟเอ

 


ใครๆก็ไม่รัก! โห่ซัวเรซทั้งงานพีเอฟเอ 
ใครๆก็ไม่รัก! โห่ซัวเรซทั้งงานพีเอฟเอ

ฟุตบอล : สื่อผู้ดีเผย ''คิง หลุยส์'' ขึ้นแท่น ''แข้งสุดยี้'' หลังถูกโห่จากบรรเพื่อนร่วมหน้าที่ทุกครั้ง ที่มีการโฆษิตชื่อในงานโฆษิตสิ่งตอบแทน ''พีเอฟเอ อวอร์ด'' เชื่ออาจส่งผลให้เป็นปมชิ่ง ''หงส์แดง''

หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าเจ้าปัญหาของลิเวอร์พูล หนึ่งในทีมบิ๊กโฟร์ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดูจะใช้ชีพค้าแข้งในแดนผู้ดียากขึ้นทุกที หลังมีสาธยายว่าทุกครั้งที่มีการโฆษิตชื่อของหอก "หงส์แดง" รายนี้ในงานโฆษิตสิ่งตอบแทนของ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ หรือ "พีเอฟเอ อวอร์ด" ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรง โกรสเวนอร์ ในใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศ อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ (28 เม.ย.) ที่ผ่านมา

สาธยายจากแดนผู้ดีเผยถึงเรื่องนี้ว่า "คิง หลุยส์" ที่เพิ่งก่อคดี "คมแขี้ยวสะท้านทรวง" จากกรณีกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลัง เชลซี ในเกมลีกที่ทั้ง 2 ทีมเจ๊ากันเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน และถูก สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ "เอฟเอ" สั่งแบน 10 เกมในช่วงที่ผ่านมา ถูกประกาศชื่อ 2 ครั้งในงานประกาศรางวัล "พีเอฟเอ อวอร์ด" เพราะมีชื่ออยู่ในรางวัล "ทีมชั้นยอดแห่งปี" รวมทั้งมีชื่อเข้าชิงในสิ่งตอบแทน "นักเตะยอดเยี่ยม" ซึ่งทุกครั้งที่ถูกประกาศชื่อ จะมีเสียงโห่โดยเพื่อนร่วมอาชีพและสื่อที่มาร่วมงานดังขึ้นทุกครั้ง

ที่ผ่านมาเคยมีสาธยายว่า มีกระแสเรียกร้องให้ถอดชื่อของ ซัวเรซ ออกจากรายนามผู้เข้าชิงรางวัลแข้งชั้นยอดของ "พีเอฟเอ อวอร์ด" ประจำปีนี้ จากกรณีทำผิดดังกล่าว ทั้งนี้มีการคาดหวังว่าประวัติการณ์ที่เกิดขึ้นอาจกระตุ้นให้ ซัวเรซ วินิจฉัยใจย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ ในช่วงสิ้นฤดูกาลที่จะถึงนี้ก็เป็นได้ เพราะไม่มีความสำราญกับการค้าแข้งในแดนผู้ดี

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

“อาร์วีพี“ เกิดมาเพื่อเป็นแชมป์ โดย ดาร์ค ไนท์

“อาร์วีพี“ เกิดมาเพื่อเป็นแชมป์ โดย ดาร์ค ไนท์


ฟุตบอล: สวัสดีครับแฟนๆ S! Sport ที่น่ารักทุกคน ยินดีปรีดากับแชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 20 ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แฟนๆผีชาวไทยคงดีใจไม่น้อย


อย่างไรก็ตาม ต้องตกลงว่าปัจจัยที่ส่งให้ปีศาจแดง ครองแชมป์แบบชิวๆคือการอพยพเข้ามาของ "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ด้วยราคา 24 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1 พันล้านบาท) จาก"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ในช่วงต้นซีซั่น



โดยเหตุผลการย้ายทีมของศูนย์หน้าคราว 29 กระรัต คือต้องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ทั้งๆที่ใจยังรักเดอะ กันเนอร์ ก็เถอะ แต่เพื่อเบื้องหน้าเขาจึงต้องอพยพทีมไปเพื่อตามหาความมีชัย


ต้องยอมรับว่า ศูนย์หน้าชาวดัตช์ คือจุดเปลี่ยนที่แท้จริงที่ทำให้ เร้ดเดวิลส์ กลับมาทวงคืนแชมป์จาก อริร่วมเมือง อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้


โดยเขาเป็น คีย์แมน ที่ลงมายิงประตูชนะคู่แข่งในขณะที่สถานการณ์ของทีมตกเป็นรอง



เขาลงมายิงประตูชัยวินาทีสุดท้ายในเกมที่พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เซาแธมป์ตัน, ยิงทีมเก่า อาร์เซนอล ในรังโอลแทรฟฟอร์ด รวมถึง ซัดทวารเบียดเสียดความพ่ายแบบไปกลับ ให้ หงส์แดง อริตลอดกาล แบบเจ็บแสบคันๆ


อาร์วีพี ทำไปแล้วผลบอลกว่า 24 ประตูในฤดูกาลนี้ เป็นเต๋งจ๋าคว้ารองเท้าทองคำ พ่วงด้วยนักเตะแถวหน้ารีเมียร์ ลีก 2 สมัยติดต่อกัน


โดยคู่แข่งอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงฟันจอบ ของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถ้าจะโดนแบนยาวในซีซั่นนี้ไปแล้ว



อีกทั้ง หนหลังกัปตันปืนใหญ่ เพิ่งซัดประตูสุดสวยในเกมที่บกับ วิลล่า ถึงขนาดที่ "เฟอร์กี้" เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายอมรับว่าลูกยิงที่สองของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ นั้นป็นทวารแห่งศตวรรษ

โดย ท่านเซอร์ กล่าวว่า "ประตูนี้เป็นลูกยิงเเห่งศตวรรษ มันมหัศจรรย์มากๆ เพอร์ซี่ มีทั้งฟอร์มที่ดี และ แย่ ในซีซั่นนี้ อย่างไรก็ตามเขายอดเยี่ยมจริงๆ"




"last but not least"


เกมต่อไปของ "ผีแดง" อาร์วีพี จะไปเลี้ยงแชมป์ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในฐานะแชมป์ ต่อหน้า อาร์แซน เวนเกอร์ หนหลังเพื่อนร่วมทีม รวมถึง สาวก เดอะ กันเนอร์ส หลายหมื่นคน ถ้าผมเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คงจะรู้สึก


"เคอะเขินไม่น้อยครับ"


เรื่องโดย ดาร์ค ไนท์ ( To be continued )



คลิป: แฮกทริก ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 



คลิป: รวมลูกยิงของ อาร์วีพี กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด



ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

เช็กแฉ! อิวาโนวิช หัวเสียสุดๆ โดนซัวเรซงับแขน

 


เช็กแฉ! อิวาโนวิช หัวเสียสุดๆ โดนซัวเรซงับแขน 
เช็กแฉ! อิวาโนวิช หัวเสียสุดๆ โดนซัวเรซงับแขน

 ฟุตบอล : ปีเตอร์ เช็ก แฉเอง! อิวาโนวิช เผ่าพันธุ์เหวี่ยงหลังโดน หลุยส์ ซัวเรซ งับเข้าท่อนแขน จวกดาวยิง ''หงส์แดง'' สันดานเลวร้ายมาก

ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูของ เชลซี ออกมาประเจิดประเจ้อว่า บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ปราการหลังเพื่อนเล่นร่วมสโมสรหัวเสียอย่างรุนแรงหลังโดน หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวแสบของ ลิเวอร์พูล กัดเข้าที่บริเวณท่อนแขน

จนกลายเป็นประเด็นร้อนในเวลานี้ ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดซูเปอร์ ซันเดย์ ที่พลพรรค "สิงโตน้ำเงินคราม" ทะลวงไปเสมอ "หงส์แดง" 2-2 ถึงสนามแอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา

เช็ก ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวผ่าน "บีบีซี" สื่อชั้นนำของอังกฤษว่า "ตอนนั้นผมไม่เห็นสภาวะการนะ แต่หลังจากที่คนอื่นๆ มาบอก ผมตกใจมากเลยทีเดียว ซัวเรซ เป็นนักเตะที่ชอบทำฟาวล์นิดๆ หน่อยๆ อยู่แล้ว"

"ผมเห็นปฏิกิริยาของ อิวาโนวิช ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเขาต้องโกรธอะไรสักอย่างแน่ หลุยส์ ซัวเรซ ชอบผลักกองหลังเอาเปรียนบคู่แข่งเสมอ ซึ่งผมก็บอกกับผู้ตัดสินถึงเรื่องนี้ด้วย"

อย่างไรก็ตาม ซัวเรซ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน "ทวิตเตอร์" เครือข่ายวงการออนไลน์ขอโทษ อิวาโนวิช ต่อสภาวะการที่เกิดขึ้นแล้ว ทว่าทางสหภาพฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ค้ำประกันว่าจะดำเนินการสอบสวนคดี "กัดจมเขี้ยว" อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

เวนเกอร์ยังมั่นปืนจบท็อปโฟร์แม้หลุดพ้นเจ๊าทอฟฟี่

 


เวนเกอร์ยังมั่นปืนจบท็อปโฟร์แม้หลุดเจ๊าทอฟฟี่ 
เวนเกอร์ยังมั่นปืนจบท็อปโฟร์แม้หลุดเจ๊าทอฟฟี่

ฟุตบอล : อาร์แซน เวนเกอร์ ยังมั่นใจ ''ไอ้ปืนใหญ่'' ติดอันดับ 1-4 คว้าตั๋วชปล.ซีซั่นหน้า แม้เกมล่าสุดหลุดเสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "ไอ้ปืนใหญ่"อาร์เซน่อล แสดงความมั่นใจว่าทีมของเขา ยังมีกาลจบฤดูกาลด้วยการติดอันดับ 1 ใน 4 อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ

 

แม้นัดล่าสุดจะทำได้แค่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน คู่แค้นแย่งตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกผลบอล 0-0 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอังคารที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา

เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์หลังจบการประลองผ่าน"สกายสปอร์ตส" สื่อดังเมืองผู้ดีว่า

 

"ผมคิดว่าเรายังอยู่ในเส้นทางที่ดีนะ อย่างที่คุณเห็นถ้าเรายังธำรงจิตใจที่ดีแบบนี้ไว้ได้ต่อไป ผมมั่นใจว่าเราจะถึงฝั่งฝันแน่ เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี แต่เกมหน้าเราต้องชนะ (เยือน ฟูแล่ม) เราต้องสนใจแค่ผลการแข่งขันเท่านั้น"

อย่างไรก็ตาม กุนซือเฟร้นช์แมน ไม่ค่อยพอใจกับการทำหน้าของ นีล สวอร์บริค ผู้ตัดสินในเกมนี้ ที่ปล่อยให้นักเตะ "ทอฟฟี่บลูส์" ไล่หวดลูกทีมของเขาหลายต่อหลายครั้ง

 

"ผมคิดว่ากรรมการปล่อยเกมมากเกินไปในครึ่งแรก แต่เราก็อาจจะปรับตัวรับมือได้ดี เราไม่เสียทวารนั่นก็ยิ่งใหญ่ เรามีกาลยิงทวารหลายครั้ง แต่บางครั้งเราดูเกร็งจนเกินไป"

ทั้งนี้ อาร์เซนอล ยังคงรั้งอันดับที่ 3 ของตารางต่อไป แต่ก็นำหน้า เชลซี ซึ่งลงเตะน้อยกว่า 2 นัดอยู่ 2 คะแนน และทิ้ง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด 2 แต้มเท่านั้น

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

บาเซิ่ลแม่นโทษโพยดับไก่4:1ทะลุ4ทีม

 


บาเซิ่ลแม่นโทษดับไก่4:1ทะลุ4ทีม+คลิป 
บาเซิ่ลแม่นโทษดับไก่4:1ทะลุ4ทีม+คลิป

ฟุตบอลยูโรป้า ลีก 

รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดสอง

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2556

เอฟซี บาเซิ่ล 2:2 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
(นัดแรกเสมอ 2:2 จุดโทษ 4:1 บาเซิ่ลเข้ารอบ)

สนาม : เซนต์ ยาค็อบ ปาร์ค

ผู้ตัดสิน : โอเลการิโอ เบนเกเรนก้า (โปรตุเกส)

 

 

นาที 23 สเปอร์ส เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1:0 เมื่อ อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช กองหลังบาเซิ่ล ขวางเชิงบอลคลาดทำให้ คลิ้นท์ เดมป์ซี่ย์ แตะบอลเลี่ยง ยานน์ ซอมเมอร์ แล้วยิงเข้าไปโล่งๆ

นาที 27 เจ้าบ้านตามตีเสมอทันควันเมื่อ สเปอร์ส จ่ายบอลไปติดกันเองทำให้ มาร์โก้ สเตรลเลอร์ ได้บอลแล้วจ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ตกทางขวาก่อนจะยิงเบียดเสาเข้าไปเป็น 1:1

นาที 49 เอฟซี บาเซิ่ล มาได้ประตูขึ้นนำจังหวะที่ แบร็ด ฟรีเดล ปัดบอลมาเข้าเท้า อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช ยิงซ้ำจ่อๆ ไม่พลาด 2:1

นาที 83 สเปอร์ส ตีเทียมบ่าเทียมไหล่เมื่อ ทอม ฮัดเดิลสตัน วางบอลยาวมาให้ คลิ้นท์ เดมป์ซี่ย์ พักอกแล้วดีดด้วยซ้ายโดนปลายมือ ยานน์ ซอมเมอร์ แต่ด้วยความแรงทำให้เด้งเข้าประตูไปเป็น 2:2

นาที 90+1 สเปอร์ส เหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ ยาน แฟร์ตอนเก้น เป็นตัวสุดท้ายเข้าสกัด โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ทำให้โดนใบแดงไล่ออกสนามทันที

จบเกมเทียมบ่าเทียมไหล่กัน 2:2 รวมผลสองนัดเทียมบ่าเทียมไหล่กันที่ 4:4 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แต่ทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้อีกจนต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ

ผลการดวลจุดโทษ
บาเซิ่ล
1. ฟาเบียน ชาร์ --> เข้า
2. มาร์โก้ สเตรลเลอร์ --> เข้า
3. ฟาเบียน ฟราย --> เข้า
4. ดิอาส --> เข้า
5.

สเปอร์ส
1. ทอม ฮัดเดิลสตัน --> ไม่เข้า
2. กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน --> เข้า
3. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ --> ไม่เข้า
4.
5.

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอฟซี บาเซิ่ล ระบบ : 4-3-3
ผู้รักษาประตู : ยานน์ ซอมเมอร์
กองหลัง : ฟิลิปป์ เดเก้น, ฟาเบียน ชาร์, อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, ปาร์ค จู โฮ
กองกลาง : โมฮาเหม็ด เอล เนนนี่, ฟาเบียน ฟราย, เซเรโซ่ เจฟฟรีย์ เดีย(ดิอาส น.58)
กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาล่าห์(ฟราย น.111), มาร์โก้ สเตรลเลอร์, วาเลนติน สต็อคเก้อร์(สไตน์โฮเฟอร์ น.71)

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ระบบ : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : แบร็ด ฟรีเดล
กองหลัง : ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ยาน แฟร์ตอนเก้น, ไคล์ นอจ์ตัน(เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ น.79)
กองกลาง : มุสซ่า เดมเบเล่(คาร์โรลล์ น.59), สก็อตต์ ปาร์คเก้อร์(ทอม ฮัดเดิลสตัน น.78) - ลูอิส โฮลท์บี้, คลิ้นท์ เดมป์ซี่ย์, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน
กองหน้า : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

 

FC Basel 2-2 Tottenham Hotspur Highlights


ติดตาม ข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่



ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://วิเคราะห์บอล.atacousticguitars.com/
http://xn--42c8b0ajg0apvrr6k8f.atacousticguitars.com/

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556

ฮัลซี่ย์เวียนกลับเปา4เกมวิลล่าฉะเศรษฐี

http://p3.s1sf.com/ns/0/wb/i/ud/235/1179568/h.jpg;r:width=300,height=172;static:p_s1sf_ns_0;file:dca4d9.jpg


วิเคราะห์บอล : ฮัลซี่ย์ คัมแบ๊คเปาที่ 4 ในเกม วิลล่า ทำศึกกับ "เจ้าสัวน้อย" หลังถูก "เอฟเอ" ลงดาบให้ไปทำข้อผูกมัดในลีกรองเมืองผู้ดี 2 นัด

มา ร์ค ฮัลซี่ย์ ผู้วินิจฉัยชาวอังกฤษ จะได้กลับมาทำข้อผูกมัดเป็นผู้ตัดสินที่ 4 ในเกมที่ แอสตัน วิลล่า สโมสรชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก จะเปิดรัง วิลล่า พาร์ค รับการมาเยือนของ ฟูแล่ม ในเกมลีกคืนวันเสาร์นี้ (13 เม.ย.)
หลัง จากถูกสมาพันธ์ฟุตบอลอังกฤษ หรือ "เอฟเอ" ตัดสินสั่งสอนให้ไปทำหน้าที่ในลีก แชมป์เปี้ยนส์ชิพ และ ลีกวัน อย่างละ 1 นัด แต่อย่างไรเจ้าตัวจะยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินหลักในเกมวันอาทิตย์นี้ (14 เม.ย.) รวมถึงเกมกลางสัปดาห์หน้าด้วยเช่นเดียวกัน
 
เชิ๊ตดำ เลือดผู้ดีวัย 51 ปีไม่ได้ลงทำข้อผูกมัดวินิจฉัยในเกม พรีเมียร์ลีก 3 เกมติดต่อกัน หลังจากวินิจฉัยพลาดโดยปฏิเสธแจกใบแดงให้กับ คัลลั่ม แม็คมานามาน หัวหอกดาวรุ่งของ วีแกน แอธเลติก
จากจังหวะเข้าสกัดอย่าง รุนแรงใส่ มัสซาดิโอ เอดาร่า แบ็กซ้ายของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในเกมที่ "เดอะ ลาติกส์" เฉือน "สาลิกาดง" 2-1 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา จึงถูก "เอฟเอ" สั่งลงโทษให้มาทำหน้าที่ในลีกรองของเมืองผู้ดี
   
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติมได้ที่ http://วิเคราะห์บอล.atacousticguitars.com/
http://xn--42c8b0ajg0apvrr6k8f.atacousticguitars.com/

วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

“เนเกรโด“ซัดเบิ้ล เซบีญาเปิดคฤหาสน์ตัดบิลเบา 2-1

 


“เนเกรโด“ซัดเบิ้ล เซบีญาเปิดรังฝานบิลเบา 2-1+คลิป 
“เนเกรโด“ซัดเบิ้ล เซบีญาเปิดรังฝานบิลเบา 2-1+คลิป



ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

ฤดูกาล 2012-2013

วันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2556

เซบีย่า 2 - 1 แอธเลติก บิลเบา

สนาม : ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน

 

 



เริ่มเกมได้ 4 นาที อัลบาโร เนเกรโด ยิงให้เจ้าถิ่น"เซบีญา"ออกนำก่อน 1-0

เริ่มครึ่งหลัง น.55 ทีมเยี่ยมเยือน บิลเบาก็ตาม ตีเสมอเป็น ผลบอล 1-1 จาก คาร์ลอส กูร์เปกี

ก่อนหมดเวลา 3 นาที เนเกรโด ก็มายิงช่องชัย เป็นลูกที่ 2 ของตัวเอง ทำให้ เซบีญา ฝาน แอธฯ บิลเบา ไปได้ในที่สุด 2-1

"สำหรับเกมนี้ทั้ง 2 ทีมต้องเหลือผู้เล่นฝ่ายละ 10 คนเท่ากัน"


วิเคราะห์บอล : 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

เซบีย่า (4-2-3-1) : เบโต้ - โคเก้, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ้, เฟร์นานโด นาบาร์โร่, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - การี่ เมเดล , กรุฟเฟรย์ กงด็อกเบีย - มานูเอล เดล โมราล, อีวาน ราคิติช , โฆเซ่ เรเยส - อัลบาโร่ เนเกรโด้

แอธ.บิลเบา (3-4-3) : กอร์ก้า อีไรซอซ - อายเมริค ลาปอร์เต้, การ์ลอส กูร์เปกี , บอร์ซ่า เอคิซ่า - อันโดนี่ อิราโอล่า, มิเกล ซาน โฆเซ่ , อันเดร์ เอร์เรร่า , ออสการ์ เด มาร์กอส - อิเกร์ มูเนียอิน, อาริตซ์ อาดูริซ , อิบาอิ โกเมซ

 

Sevilla 2-1 Athletic



ติดตาม ข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด – กาลาตาซาราย

 


วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - กาลาตาซาราย 
วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - กาลาตาซาราย

 

วิเคราะห์บอล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์

เรอัล มาดริด - กาลาตาซาราย

เวลา: 01.45 น.
สนาม: ซานติอาโก เบอร์นาบิว
ผู้ตัดสิน: สเวน โมเอน (นอร์เวย์)
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1

 

 

 

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เรอัล มาดริด

30 มี.ค. 56 เสมอ ซาราโกซ่า 1-1 (เยือน) ลา ลีกา
16 มี.ค. 56 ชนะ มาญอร์ก้า 5-2 (เหย้า) ลา ลีกา
10 มี.ค. 56 ชนะ เซลต้า 2-1 (เยือน) ลา ลีกา
5 มี.ค. 56 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
2 มี.ค. 56 ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 (เหย้า) ลา ลีกา

กาลาตาซาราย

30 มี.ค. 56 ชนะ อิสตันบูล 2-0 (เหย้า) ซูเปอร์ลีกตุรกี
17 มี.ค. 56 ชนะ เคย์เซริสปอร์ 3-1 (เยือน) ซูเปอร์ลีกตุรกี
12 มี.ค. 56 ชนะ ชาลเก้ 3-2 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
8 มี.ค. 56 แพ้ เกนเคลียร์เบอร์ลิกี้ 0-1 (เหย้า) ซูเปอร์ลีกตุรกี
2 มี.ค. 56 เสมอ เอสคิเซเฮอร์สปอร์ 0-0 (เยือน) ซูเปอร์ลีกตุรกี

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

18 เม.ย. 44 แชมเปี้ยนส์ลีก เรอัล มาดริด 3-0 กาลาตาซาราย
3 เม.ย. 44 แชมเปี้ยนส์ลีก กาลาตาซาราย 3-2 เรอัล มาริด
25 ส.ค. 43 ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เรอัล มาดริด 1-2 กาลาตาซาราย

ความพร้อม-สภาพทีม

เรอัล มาดริด

ราชันชุดขาวสถานะทีมสมบูรณ์เต็มร้อย หลังอิเคร์ คาซิญาส ผู้พิทักษ์ประตูทีมชาติสเปน ฟิตกลับมาแล้วจากการพักไปกว่าสองเดือนเพราะบาดเจ็บที่มือ แต่จะยังไม่กลับมามีส่วนร่วมในเกมนี้ โดยดิเอโก้ โลเปซจะรับการงานเฝ้าเสาต่อไป

ส่วนราฟาเอล วาราเน่ กองหลังดาวรุ่ง ก็พร้อมกันกลับมาทำการงานได้อีกครั้ง หลังมีทีท่าป่วยไข้หลังมาจากการเอาฤกษ์สนามให้ทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ จนถูกพักเอาไว้ในเกมลา ลีกานัดล่าสุด เช่นเดียวกับฟาบิโอ โคเอนเทรา แบ็กซ้ายทีมชาติโปรตุเกส ที่มีทีท่าป่วยไข้เท้าจนถูกพักเอาไว้ในเกมเดียวกัน

ในแดนกลางคงจะส่งชาบี้ อลอนโซ่ และ ซามี่ เคดิร่า สองมิดฟิลด์ตัวหลัก ซึ่งถูกพักเอาไว้เมื่อสุดสัปดาห์ กลับมาลงทำหน้าที่อีกครั้ง

ส่วนเกมรุกคงจะกระจายกลับมาใช้ชุดใหญ่เช่นกัน โดยมี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่จะยังเป็นแกนหลักคนเดียวที่หลงเหลือมาจากเกมล่าสุด ส่วนอังเคล ดิ มาเรีย กับ เมซุต โอซิล จะกลับมาลงเล่นอีกครั้ง โดย คาริม เบนเซม่า น่าจะกลับมายืนเป็นหัวหอกตัวเป้าแทน กอนซาโล่ อิกวาอินบ้าง

ความพร้อม-สภาพทีม

กาลาตาซาราย

กาลาฯ ก็มีนักเตะฟุตบอลให้ใช้งานได้อย่างฟูลทีมเช่นกัน โดย โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้าตัวเก๋าชาวเดนมาร์ก กลับมาฝึกอย่างเต็มตัวได้แล้ว นับตั้งแต่พักไปนานสองเดือนเพราะป่วยไข้เท้า ส่วน โทมัส อูจ์ฟาลูซี่ กองหลังกัปตันทีม ก็หายป่วยไข้เข่ากลับมาลงฝึกเบาๆ ได้แล้ว หลังพักยาวมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล และไม่ได้ถูกส่งชื่อลงเตะรายการนี้ด้วย

อัลเบิร์ต ริเอร่า วิงแบ็กชาวสเปน คงจะกลับมาทำงานในแนวรับฝั่งซ้ายตามเดิม หลังถูกพักไว้เป็นตัวสำรองในเกมลีกนัดล่าสุด นอกจากนั้นคงจะเป็นนักเตะตัวหลักชุดเดิมๆ ที่พร้อมกันลงสนามได้อีกครั้ง

เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ เพลย์เมกเกอร์ชาวดัตช์ พร้อมกันลงเจอกับฝ่ายเก่าได้ หลังคืนความฟิตจากทีท่าบาดเจ็บที่โคนขาหนีบจากเกมทีมชาติ กลับมาลงสนามได้ตามปกติแล้ว โดยมี ฮามิต อัลตินท็อป มิดฟิลด์ฝ่ายชาติตุรกี เป็นอีกหนึ่งเด็กเก่าชุดขาว ที่จะลงมาเป็นตัวยืนในแดนกลางนัดนี้

ส่วนแนวรุกของทีมจะชี้นำโดย บูรัค ยิลมาซ ดาวซัลโวสูงสุดของกำหนดการนี้ในฤดูกาลนี้ร่วมกับ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่จะลงเล่นคู่กับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงตัวเก๋า ซึ่งจะอายุครบ 35 ปีเต็มในเดือนนี้

วิเคราะห์รูปเกม

มาดริดได้เจองานเบาในรอบนี้หลังผ่านด่านของแข็งแรงมาได้ในรอบก่อน คงจะไม่ยอมเพลี่ยงท่าตกม้าตายง่ายๆ แน่ และคงจะจัดเต็มกับเกมแรกในบ้านเพื่อจะได้ไม่ต้องไม่มีแรงในนัดที่สอง นัดนี้ราชันชุดขาวมีนักเตะให้เลือกใช้งานมากมาย และไม่ว่าจะจัดชุดไหนลงเล่นก็ยังเป็นต่อกาลาฯ ผู้มาไปหาบานเบอะ เจ้าถิ่นคงจะเป็นฝ่ายเปิดเกมเหยียบไปย่อยยับเข้าใส่ ส่วนทีมไปหาก็คงต้องเน้นรับให้แน่นแฟ้น และใช้เกมหนักเข้าบดบี้ โดยหวังสัมผัสสวนกลับเด็ดๆ ซักดอกสองดอก แต่เกมบุกของเจ้าบ้านน่าจะยังเข้มแข็งพอจะประคองตัวเก็บความสำเร็จไปได้เบาๆ คงจะจะไม่ถึงกับขาดลอยจนไม่ได้ลุ้นต่อนัดสอง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

เรอัล มาดริด (4-2-3-1): ดิเอโก้ โลเปซ; อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราเน่, ฟาบิโอ โคเอนเทรา; ชาบี้ อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า; อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสติอาโน่ โรนัลโด้; คาริม เบนเซม่า
โค้ช: โจเซ่ มูรินโญ่

กาลาตาซาราย (4-3-1-2): เฟอร์นานโด มุสเลร่า; เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เซมีห์ คาย่า, ซามี่ คาย่า, อัลเบิร์ต ริเอร่า; ฮามิต อัลตินท็อป, เฟลิเป้ เมโล, เซลชุค อินาน; เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์; บูรัค ยิลมาซ, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
โค้ช: ฟาติห์ เตริม

ฮอตสกอร์: มาดริดชนะ ผลบอล 2-0

เกร็ดย่อย

* คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เป็นดาวซัลโวยิ่งร่วมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ โดยทำไป 8 ประตู เท่ากับบูรัค ยิลมาซ โดยเขายังซัลโวไปถึง 17 ประตู ในการลงสนาม 15 นัดหลังสุดในกำหนดการนี้ด้วย
* โรนัลโด้ มีลู่ทางยิงเข้ากรอบไปแล้ว 41 ครั้ง และยิงออกนอกกรอบ 16 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดของแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ ส่วนมาดริดก็เป็นฝ่ายที่ยิงเข้ากรอบมากที่สุดเช่นกัน (104 ครั้ง)
* มาดริดทำไปแล้ว 18 ประตู ในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ สูงที่สุดเท่ากับบาเยิร์น ส่วน 11 ประตูที่เสียไปก็สูงที่สุดในบรรดาทีมที่ยังอยู่ในการประมูลเช่นกัน และราชันชุดขาวยังรักษาคลีนชีตไม่ได้เลยอีกด้วย
* อังเคล ดิ มาเรีย ทำแอสซิสต์สูงที่สุดร่วมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ 5 ครั้งเท่ากับซลาตัน อิบราฮิโมวิช
* โฆเซ่ โรดริเกซ ทำลายสถิติของ ราอูล กอนซาเลซ ในการเป็นนักเตะมาดริดที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้ทีมในฟุตบอลถ้วยยุโรปที่ 17 ปี 353 วัน
* โรนัลโด้ ทำไปแล้ว 105 ประตู ในการลงเตะให้มาดริด 93 นัดที่ซานติอาโก เบอร์นาบิว
* มาดริดไม่พ่ายใครในบ้านติดต่อสื่อสารกันมาแล้ว 37 นัด นับตั้งแต่แพ้บาร์เซโลน่าในโคปา เดล เรย์เมื่อ 18 มกราคม 2012
* กาลาฯ ทำทวารในการประมูลฟุตบอลถ้วยยุโรปไปแล้ว 345 ลูก และเสียไป 346 ลูก
* กาลาฯ ปราบนอกบ้านตลอด 3 นัดหลังสุดที่ลงเตะแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากไม่ปราบเกมเยือนมา 9 นัดติด ในการลงเตะถ้วยยุโรปก่อนหน้านี้ โดยแพ้ถึง 8 นัด ก่อนจะชนะคลูจ์ได้ในนัดที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลนี้
* บูรัค ยิลมาซ กลายเป็นนักเตะตุรกีคนที่สองที่ทำแฮตทริกได้ในแชมเปี้ยนส์ลีกในเกมที่บุกไปชนะคลูจ์ในฤดูกาลนี้ ต่อจาก ตุนกาย ซานลี่ ที่ทำแฮตทริกให้เฟเนอร์บาห์เช่ในเกมที่ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 เมื่อปี 2004
* 8 ประตู ของยิลมาซ ซึ่งทำให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดร่วมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ ถือเป็นการยิงได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของนักเตะจากสโมสรในตุรกี หลังจาก มาริโอ ชาร์เดล เคยทำไว้ 6 ลูก ให้กาลาฯ เมื่อฤดูกาล 2001/02
* ยิลมาซ ยังเป็นนักเตะตุรกีคนแรกที่ลงเตะให้ 4 สโมสรในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย หลังจากเคยลงเตะในกำหนดการนี้กับเบซิคตัส, เฟเนอร์บาห์เช่ และแทร็ปซอนสปอร์มาแล้ว
* กาลาฯ ทำไป 11 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ น้อยกว่าทุกทีมที่ยังอยู่ในการแข่งขัน

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล เปแอสเช - บาร์เซโลน่า

 


วิเคราะห์บอล  เปแอสเช - บาร์เซโลน่า 
วิเคราะห์บอล  เปแอสเช - บาร์เซโลน่า

 

วิเคราะห์บอล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์

เปแอสเช - บาร์เซโลน่า

เวลา: 01.45 น.
สนาม: ปาร์ก เดส์ แปรงส์
ผู้ตัดสิน: โวล์ฟกัง สตาร์ค (เยอรมนี)
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1

 

 

 

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เปแอสเช

29 มี.ค. 56 ชนะ มงต์เปลลิเยร์ 1-0 (เหย้า) ลีกเอิง
17 มี.ค. 56 เสมอ แซงต์ เอเตียน 2-2 (เยือน) ลีกเอิง
9 มี.ค. 56 ชนะ น็องซี่ 2-1 (เหย้า) ลีกเอิง
6 มี.ค. 56 เสมอ บาเลนเซีย 1-1 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
2 มี.ค. 56 แพ้ แร็งส์ 0-1 (เยือน) ลีกเอิง

บาร์เซโลน่า

30 มี.ค. 56 เสมอ เซลต้า 2-2 (เยือน) ลา ลีกา
17 มี.ค. 56 ชนะ ราโย 3-1 (เหย้า) ลา ลีกา
12 มี.ค. 56 ชนะ เอซี มิลาน 4-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
9 มี.ค. 56 ชนะ ลา คอรุนญ่า 2-0 (เหย้า) ลา ลีกา
2 มี.ค. 56 แพ้ เรอัล มาดริด 1-2 (เยือน) ลา ลีกา

งานการพบกันที่ผ่านมา

14 พ.ค. 40 คัพวินเนอร์ส คัพ บาร์เซโลน่า 1-0 เปแอสเช
15 มี.ค. 38 แชมเปี้ยนส์ ลีก เปแอสเช 2-1 บาร์เซโลน่า
1 มี.ค. 38 แชมเปี้ยนส์ ลีก บาร์เซโลน่า 1-1 เปแอสเช

ความพร้อม-อาการทีม

เปแอสเช

เปแอสเชได้เฮเมื่อ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงตัวมโนรถ พิชิตอุทธรณ์สิ่งร้ายแบนจากใบแดงที่ได้รับในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก ทำให้โดนกักแข้งแค่นัดเดียวจาก 2 นัด และพร้อมกลับมาลงเตะกับทีมเก่าได้ในนัดนี้

ส่วน มาร์โก แวร์รัตติ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง ก็ผ่านพ้นสิ่งร้ายแบนกลับมาแล้ว และคงจะได้ลงมาเป็นตัวหลักตรงกลางสนามคู่กับ แบลส มาตุยดี้ อีกครั้ง ส่วน เดวิด เบ็คแฮม ซูเปอร์สตาร์รุ่นใหญ่ คงต้องรอโอกาสลงมาเป็นโจ๊กเกอร์จากม้านั่งสำรองไปก่อน

ติอาโก้ ม็อตต้า อีกหนึ่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งฟิตกลับมาลงเล่นแทนแวร์รัตติในนัดที่แล้ว ก็มีปัญหากับอาการบาดเจ็บเดิมๆ อีก ทำให้ต้องพักไปอีกรอบ และหมดสิทธิมีส่วนร่วมในนัดนี้

เกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ คงจะส่งนักเตะตัวหลักที่ถูกพักไว้ในเกมลีกนัดล่าสุดกลับมาลงสนามอย่างพร้อมหน้า โดย ลูคัส มูร่า ปีกทีมรัฐบราซิล จะกลับมาเป็นตัวขึ้นเกมรุกฝั่งขวาอีกครั้ง ส่วน เอเซเกล ลาเวซซี่ กองหน้าอาร์เจนไตน์ ก็จะลงมาเล่นในแนวรุกเช่นกัน

ส่วนแนวรับมีสมณศักดิ์แบ็กขวาที่ต้องวินิจฉัยใจว่าจะส่งใครลงทำหน้าที่ระหว่าง คริสตอฟ ฌัลเลต์กับ เกรกอรี่ ฟาน เดอ วีล หลังจากรายแรกเจ็บไปในเกมที่แล้วของถ้วยใบนี้ แต่ก็คืนความฟิตกลับมาลงเล่นเป็นตัวสำรองในสองเกมหลังสุดได้แล้ว

ผู้เล่นบาดเจ็บ: ติอาโก้ ม็อตต้า

ความพร้อม-สภาพทีม

บาร์เซโลน่า

เปโดร โรดริเกซ กองหน้าทีมชาติสเปน ชวดบู๊นัดนี้เพราะติดสิ่งร้ายแบนหนึ่งนัดจากการสะสมใบเหลืองครบโควตาไปในนัดล่าสุด ทำให้เชส ฟาเบรกาส น่าจะมียามได้ลงมาเป็นหนึ่งในสามประสานแดนหน้าบ้างในนัดนี้

ส่วน บิคตอร์ บัลเดส ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง พร้อมลงเฝ้าเสาได้ในรายการนี้ แม้จะยังอยู่ระหว่างการใช้โทษแบนในลีก 4 นัดอยู่ ทำให้โฆเซ่ ปินโต้ คงต้องกลับไปนั่งสำรองบ้าง

คาร์เลส ปูโยล และอาเดรียโน่เป็นสองกองหลังที่ยังไม่ฟิตกลับมาจากอิริยาบถบาดเจ็บ แต่ ฆอร์ดี้ อัลบา แบ็กซ้ายตัวหลัก สลัดปัญหาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่ได้รับจากเกมทีมชาติสเปนกลับมาได้แล้ว

ส่วน ชาบี้ เอร์นานเดซ มิดฟิลด์จอมทัพ เป็นอีกคนที่พร้อมลงมาคุมเกมแดนกลางเช่นเดิม หลังจากเจ็บแฮมสตริงมาจากเกมทีมชาติ จนพลาดเกมลีกนัดล่าสุดมาแล้ว

ขณะที่นักเตะฟุตบอลตัวหลักๆ อย่าง ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อินิเอสต้า และดาวิด บีญ่า ซึ่งได้พักไปในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ คงจะกลับมาลงสนามอย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง โดยมี ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะตัวเก่ง เป็นตัวหลักในแนวรุกเช่นเดิม

ผู้เล่นบาดเจ็บ: คาร์เลส ปูโยล, อาเดรียโน่

ผู้เล่นโดนแบน: เปโดร โรดริเกซ

วิเคราะห์รูปเกม

เปแอสเชต้องอุตสาหะเค้นทุกอย่างออกมาในเกมนี้เพื่อจะคว้าความมีชัยให้ได้ก่อน เพราะเป็นหนทางเดียวหากอยากผ่านบาร์ซ่าให้ได้ ทำให้เกมนี้เจ้าถิ่นคงเล่นไม่ง่ายนัก เพราะต้องอุตสาหะลุ้นทำประตูชัยด้วย แต่เกมรับก็ต้องเหนียวเพื่อไม่ให้เสียประตูทีมเยือน ดูแล้วเหงื่อตกกีบแน่ เพราะผลงานของทีมก็ไม่ค่อยเด่นเด้งมากนัก แถมบาร์ซ่ายังเป็นทีมที่พร้อมกะซวกคู่ต่อสู้ได้ทุกเมื่อ แม้รอบที่แล้วจะเพลี่ยงท่าเสียทีให้มิลานก่อนในเกมนอกบ้านนัดแรก แต่ก็คงจะทำให้เกมนี้เดินหมากมาดีขึ้น และยังน่าจะมีภาษีดีกว่าที่จะบุกมาดับความหวังทีมเศรษฐีใหม่อย่างเปแอสเชลงได้ตั้งแต่นัดนี้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

เปแอสเช (4-4-2): ซัลวาตอเร่ ซิริกู; คริสตอฟ ฌัลเลต์, ติอาโก้ ซิลวา, อเล็กซ์, แม็กซ์เวลล์; ลูคัส มูร่า, แบลส มาตุยดี้, มาร์โก แวร์รัตติ, ฮาเวียร์ ปาสโตเร่; เอเซเกล ลาเวซซี่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
โค้ช: คาร์โล อันเชล็อตติ

บาร์เซโลน่า (4-3-3): บิคตอร์ บัลเดส; ดานี่ อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, เจราร์ด ปิเก้, ฆอร์ดี้ อัลบา; ชาบี้ เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อินิเอสต้า; เชส ฟาเบรกาส, ลิโอเนล เมสซี่, ดาวิด บีญ่า 
โค้ช: ติโต้ บีลาโนบา

ฮอตสกอร์: บาร์ซ่าชนะ ผลบอล 2-1

เกร็ดย่อย

* คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นเพียงโค้ชคนที่ 2 ต่อจาก โจเซ่ มูรินโญ่ ที่นำ 4 ทีมผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ลีกได้ ได้แก่ มิลาน, ยูเวนตุส, เชลซี และ เปแอสเช
* ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูให้กับ 6 ทีมในแชมเปี้ยนส์ลีก ได้แก่ ไอแอ๊กซ์, ยูเวนตุส, อินเตอร์, บาร์เซโลน่า, มิลาน และ เปแอสเช
* เปแอสเชเป็นทีมที่เสียล้ำหน้ามากที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ (35 ครั้ง)
* บาร์เซโลน่ามีอัตราส่วนของการครองบอลเฉลี่ยต่อเกมถึง 69% แล่จ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 84% ซึ่งเป็นสถิติที่สูงกว่าทุกทีมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้
* ชาบี้ เอร์นานเดซ จ่ายบอลสำเร็จ 856 ครั้งในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ มากกว่านักเตะในอันดับรองลงไปถึง 391 ครั้ง แม้จะไม่ได้ลงเตะในเกมที่ 6 ของรอบแบ่งกลุ่มก็ตาม โดยเขามีอัตราส่วนของการจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 89%
* ลิโอเนล เมสซี่ ทำไปแล้ว 58 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นรองเพียง ราอูล กอนซาเลซ เจ้าของสถิติสูงสุด ซึ่งทำไว้ 71 ลูก
* เมสซี่ สร้างสถิติทำทวารโทรกันในลา ลีกา 19 นัด ทุบสถิติเดิมที่เคยถูกทำไว้ 10 นัดลงอย่างกระจุยแผ่กระจาย และเขายังกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูคู่ต่อสู้ทุกทีมในลา ลีกาได้ด้วย

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

สิงโตบุกกรีดมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง

 


สิงโตบุกเฉือนมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง 
สิงโตบุกเฉือนมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง

วิเคราะห์บอล : เพื่อวันนี้ก็ยังมีฟุตบอลโลกรอบคัดโซนยุโรปอีกทีมละหนึ่งนัดก่อนที่จะกลับไปเตะฟุตบอลลีกกันคงเดิม ซึ่งมีบิ๊กแมตช์ที่น่าอินังขังขอบและจะนำมาพินิจเหน็บแนมกันสองคู่ 

เริ่มจากเกมระหว่างทีมแกร่งจากยุโรปตะวันออกอย่างมอนเตเนโกรจะเปิดบ้านรับการมาเยี่ยมของขุนพล “ทรีไลอ้อน” อังกฤษ ในกลุ่มเอช 

ขณะที่อีกคู่เป็น “ตราไก่” ฝรั่งเศสจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “กระทิงดุ” สเปน เพื่อแย่งตำแหน่งจ่าฝูงของกล่มไอ โดยทีมแชมป์กลุ่มจะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติไม่ต้องไปเพลย์ออฟ

 



ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป มอนเตเนโกร พบ อังกฤษ




ทั้งคู่เพิ่งเอาชนะคู่แข่งที่อ่อนชั้นกว่าได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นการเรียกความแน่ใจอย่างดีก่อนเจองานหนักในนัดนี้ ทำให้บลังโก้ เบอร์โนวิช ไม่ค้องห่วงเรื่องของความแน่ใจลูกทีมนอกจากเรื่องแท็กติกแผนการเล่นมากกว่าที่ต้องเน้นเกมรับบากบั่นครองความได้เปรียบในแดนกลางให้ได้แถมข่าวดีคือไม่มีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บหรือติดโทษแบนจึงน่าจะใช้ชุดเดิมยังกะที่ผ่านๆ มาเล่นในระบบ 4-4-2

 



เริ่มจากมลาเดน โบโซวิชเป็นผู้พิทักษ์ประตู แนวรับสร้างไปด้วยสเตฟาน ซาวิช, มาร์โก บาซ่า, มิโอแดร็ก ชูโดวิชและมิลาน โยวาโนวิช ตรงกลางให้นิโคล่า ดรินซิสกับกับมิโรราด เปโควิช คอยตัดเกมเสร็จตัวทำเกมอย่างวิคเตอร์ โกโลวาเทนโก้กับไซม่อน วุคเชวิช โหล่คู่กองหน้าเป็นสเตวาน โยเวติชกับมีร์โก วูชินิช

 



ฝ่ายชาติอังกฤษของรอย อ็อดจ์สันเพิ่งถล่มทีมอ่อนชั้นกว่าไปได้ 8 ประตูจึงวัดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องของความมั่นใจที่กลับมามุ่งมั่น อย่างไรก็ตามนัดนี้ทีมจำเป็นต้องต้องเก็บสามแต้มให้ได้เพื่อแซงคู่แข่งขึ้นเป็นแชมป์กลุ่มที่จะผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบโหล่แบบไม่ต้องเพลย์ออฟให้ใจหายใจคว่ำ 

ส่วนเรื่องตัวผู้เล่นไม่ต่างจากเดิมที่ น่าห่วงคงเป็นเรื่องเกมรับที่ต้องเจอของจริงแล้วหลังจากตัวหลักในตอนแรกถอนตัวหมดไม่ว่าจะเป็นแกรี่ เคฮิลล์หรือริโอ เฟอร์ดินานด์ โดยฝ่ายจะมาเล่นในระเบียบเดิมคือ 4-2-3-1

 


 

เริ่มจากโจ ฮาร์ทเป็นผู้พิทักษ์ทวาร แนวรับสร้างไปด้วยเกล็น จอห์นสัน, โจลีออน เลสคอตต์, แกรี่ เคฮิลล์และเลห์ตัน เบนส์ ตัดตัดเกมให้สก็อต ปาร์คเกอร์กับไมเคิล คาร์ริคค่อยช่วยกันเสร็จตัวทำเกมอย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด แฟรงค์ แลมพาร์ดและธีโอ วัลคอตต์ ในขณะที่กองหน้าจะเป็นเวนย์ รูนีย์ลงสนาม


เกมนี้ ฝ่ายแว่นแคว้นมอนเตเนโกรเจ้าบ้านเจอกับคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเลยทีเดียวจากระเบียบของทีมที่ไม่แตกต่างกันรวมทั้งตัวผู้เล่นเหมือนคู่แข่งที่ทั้งสองเจอมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูเจ้าบ้านน่าจะมาเน้นเกมรับเพราะแค่เพียงเสมอก็จะผดุงรักษาความได้เปรียบมีโชคผ่านเข้ารอบสูงในฐานะอันดับหนึ่งของกลุ่ม

ต่างจากอังกฤษที่ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้นมิเช่นนั้นเมื่อยล้าแน่ อย่างไรก็ตามโหล่เชื่อว่าอังกฤษที่ความช่ำชองในเวทีชั้นนานาชาติมากกว่าบวกกับการที่ปู่รอยทำทีมค่อนข้างแน่นแฟ้นน่าจะทำให้ปาดชนะไปได้ในท้ายที่สุด

สกอร์ที่คาด มอนเตเนโกร แพ้ อังกฤษ ผลบอล 1-2




ฝรั่งเศส - สเปน

 

ทีมชาติฝรั่งเศสเป็นจ่าฝูงของกลุ่มหลังจากเอาชนะคู่แข่งมาได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่นัดนี้เหนื่อยแน่กับการเจอทีมใหญ่ที่เหมือนกันแถมความสามารถของคู่แข่งดีกว่าด้วยซ้ำ 

ทำให้กุนซือเจ้าบ้านอย่างดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส ต้องเตรียมทำการบ้านในเรื่องของแท็กติกแผนการในการเล่นเกมรับมาเป็นอย่างดีแน่ ในส่วนสภาวะทีมจะขาดแค่มาติเยอ เดบูชี่เพียงคนเดียวที่บาดเจ็บไม่ได้ถูกเรียกตัวเข้ามาติดทีมนอกนั้นไม่มีตัวปัญหาอะไรแถมกำลังแน่ใจกับอปราชัยที่ผ่านมาอีกด้วย ดูแล้วทีมคงมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม

 



เริ่มจากฮูโก้ โยริสเป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วยปาทริซ เอฟร่า, ราฟาเอล วาราน, มามาดู ซาโก้และกาแอล กลีชี่ แดนกลางมีมักซิม โกนาล็องกับโยฮัน กาบายคอยตัดเกมพร้อมตัวทำเกมอย่างแบลส มาตุยดี้ เฌเรมี่ เมเนซและฟร็องค์ ริเบรี่ ในขณะที่กองหน้าตัวเป้าจะให้โอลิวิเยร์ ชิรูด์ลงสนาม


ทีมชาติสเปนเพิ่งเสียฟอร์มเสมอกับทีมที่เป็นรองกว่าแบบต้องโทษตัวเองที่ยิงกันไม่คมและไปเสียสมาธิในเกมรับเพียงครั้งเดียวจึงทำคะแนนหล่นหายไปถึงสองคะแนน

 


  นัดล่าสุด สเปน เสมอ ฟินแลนด์ 1-1


ทำให้บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือของทีมต้องเรียกฟอร์มของลูกทีมกลับมาให้ได้ถ้าหวังจะเป็นแชมป์กลุ่มเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ เรื่องขุมกำลังภายในทีมไม่มีผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่างอิเคร์ คาซิญาสที่เจ็บยาวเพียงคนเดียว ดูแล้วเล่นตามสไตล์ของเดิมของตัวเองมาเน้นครองบอลแดนกลางเพื่อสร้างความได้เปรียบและหาโอกาสเข้าทำ โดยจะมาเล่นในระบบ ระบบ 4-5-1

 



เริ่มจากเปเป้ เรน่าเป็นผู้รักษาประตู ฟุตบอลแนวรับประกอบไปด้วยเซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด, ปิเก้, ราอูล อัลบิโอล และอัลวาโร่ อาร์เบลัว ตรงกลางมีชาบี อลองโซ่กับชาบี เอร์นานเดซคุมจังหวะพร้อมตัวรุกอย่างอันเดรส อินิเอสต้า, เชส ฟาเบรกัสและฆวน มาตา สุดท้ายกองหน้าตัวเป้าจะให้ดาวิด บีย่าที่หายเจ็บกลับมาลงสนาม 
    

เกมนี้ ทีมชาติฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าบ้านถึงจะเป็นทีมใหญ่แต่ก็เจอใหญ่กว่าอย่างทีมชาติสเปนที่ดูเป้นต่อในเรื่องของตัวผู้เล่น ระบบทีมรวมทั้งประสบการณ์ที่มีมากกว่าถึงฟอร์มของทีมเยือนจะเพิ่งหลุดเสมอมาก็ตาม 

เกมนี้เจ้าบ้านต้องพยายามตัดเกมตรงกลางของทีมเยือนให้ได้ถ้าหวังจะเก็บสามแต้มในสนามสต๊าด เดอ ฟรอง ของตัวเอง แต่เป็นสเปนที่ต้องมีลูกฮึดเพื่อจะผ่านเข้ารอบรวมทั้งขุมกำลังที่ครบเครื่องมากกว่าจะบุกมาเอาชนะไปได้ในที่สุดครับ

สกอร์ที่คาด ฝรั่งเศส แพ้ สเปน 1-2



เรื่องโดย : Dr.Mao

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่